การไปศึกษาเล่าเรียนในต่างประเทศ ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น เป็นโอกาสอันดีที่น้องๆ จะได้ฝึกฝนการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย และประเทศยอดนิยมที่สุดอันดับต้นๆ คงหนีไม่พ้นสหรัฐอเมริกา แต่ก็อาจจะมีอีกหลายๆ เรื่องที่อาจทำให้น้องๆ รู้สึกกังวลก่อนออกเดินทาง หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของการหาที่พัก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับทิปส์ในการหาที่พักในสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้ห้องพักที่ตรงใจและอุ่นใจที่สุดกัน
#1 เลือกจากทำเลที่ตั้งของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา
ยกตัวอย่างกรณีการไปเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ (อ่านเพิ่มเติม: ทำไมต้องไปเรียนภาษาอังกฤษที่ สหรัฐอเมริกา) หากน้องๆ ตัดสินใจเลือกได้แล้วว่าจะไปเรียนที่โรงเรียนใด ในเมืองไหนได้แล้ว ทีนี้เราก็จะสามารถตีวงให้แคบลงได้โดยการศึกษาทำเลตั้งของโรงเรียน และย่านที่พักอาศัยที่อยู่ในรัศมีรอบๆ แล้วเช็คกับตัวเองว่า เราอยากอยู่ในสถานที่แบบไหน ใกล้โรงเรียน ใกล้ย่านที่พักอาศัย ใกล้ตัวเมือง หรือใกล้ศูนย์กลางการคมนาคม เป็นต้น ทั้งนี้ลองกูเกิ้ลดู (จะลองใช้แผนที่กูเกิล หรือกูเกิลเอิร์ธ ช่วยด้วยก็ได้) ว่าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างที่เราต้องการไหม ปลอดภัยในการอยู่อาศัยหรือเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ (อ่านเพิ่มเติม: หาที่พักนักเรียนใน ‘อเมริกา’ แบบไหนให้ตรงใจคุณที่สุด!)
#2 ตั้งงบประมาณ
ในสหรัฐอเมริกา (จริงๆ ก็ทุกที่ นั่นแหละ) ราคาของห้องพักในแต่ละเมืองอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับเมืองหรือรัฐที่เราเลือกไปเรียน ดังนั้น ควรตั้งงบประมาณให้ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด เท่าไหร่ที่เราสามารถจ่ายไหว ตัวเลือกไหนที่รู้สึกว่าเกินตัว เลือกแล้วต้องลำบากแน่ๆ ก็ตัดทิ้งไปเลย เมื่อตั้งงบได้แล้วว่าแต่ละเดือนจ่ายได้เท่าไหร่ ก็โฟกัสไปที่ที่พักในช่วงราคาดังกล่าวอย่างเดียวเลย แต่อย่าลืมดูพวกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่นๆ ด้วย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ค่าบริการต่างๆ ว่าเมื่อรวมเข้ามาแล้วเกินกว่างบประมาณหรือไม่
#3 ค้นหาจากเว็บไซต์
การหาห้องพักเองในอีกซีกโลกอย่างอเมริกา (หากไม่ได้ใช้บริการของทางโรงเรียนหรือที่ปรึกษา) อาจจะยากที่จะรู้ได้ว่าห้องพักนั้นตั้งอยู่ในสถานที่แบบใด มีบรรยากาศยังไง สภาพห้องดีไหม พี่ๆ ขอแนะนำเว็บไซต์ ApartmentSearch.com เลย เพราะไม่เพียงแต่ น้องๆ จะสามารถ customize ค้นหาแบบเว็บไซต์ทั่วไป แต่ยังสามารถดูข้อมูลอื่นๆ เช่น สถิติการเกิดอาชญากรรม ขนาดพื้นที่และความหนาแน่นของประชากร ร้านอาหารและร้านค้าในท้องถิ่น รวมไปถึงค่าครองชีพและอื่นๆ ได้อีกด้วย
#4 เตรียมเอกสารไว้ให้พร้อม
หากเจอห้องพักที่น้องๆ ชอบแล้ว ก็ต้องรีบเตรียมเอกสารการเช่าและจัดการติดต่อให้เรียบเพื่อที่จะได้ไม่พลาดห้องพักที่เราอยากได้ ความเร็วด้านเอกสารเป็นสิ่งที่สำคัญมากโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีดีมานด์สูงๆ และมีการแข่งขันด้านราคาอย่างเข้มข้น เช่นใน นิวยอร์ค หรือ ซานฟรานซิสโก และสถานที่อื่นๆ ที่ได้รับความนิยม
#5 ทำความเข้าใจระบบไฟแนนซ์ในอเมริกา
เมื่อน้องๆ ยื่นเอกสารเพื่อเช่าซื้อที่พักในสหรัฐอเมริกา ตามปกติ ถ้าเป็นคนอเมริกัน เจ้าของบ้านหรือตัวแทนเช่าซื้อจะตรวจสอบประวัติเครดิตของเราตามขั้นตอน (เครดิตที่ว่า จะประกอบด้วย รายงานบันทึกการชำระหนี้ เช่น สินเชื่อหรือบัตรเครดิต) แต่เราในฐานะนักเรียนไทยหรือคนต่างด้าว ซึ่งไม่มีประวัติเครดิตในอเมริกาเลย ก็ต้องพึ่งพาวิธีอื่น เช่น ให้เพื่อน ญาติ หรือคนรู้จักที่อาศัยอยู่ในเมริกาเป็นคนทำสัญญาเช่าให้ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็สามารถต่อรองโดยการขอจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า หรือเพิ่มวงเงินมัดจำ เพื่อแสดงว่าเรามีความน่าเชื่อถือทางการเงิน ก็อาจจะเวิร์คอยู่
#6 อ่านสัญญาการเช่าให้ละเอียด
เมื่อค้นหาจนได้ห้องพักที่ถูกใจเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญอันดับถัดมาก็คือ ต้องอ่านข้อกำหนดของสัญญาเช่าอย่างละเอียดรอบคอบก่อนที่จะเซ็นสัญญาตกลงเช่า เช่น เจ้าของห้องอนุญาตให้เราสามารถให้เช่าช่วงต่อได้ไหม เช่น ในกรณีที่เราอยากย้ายที่อยู่แต่ยังไม่หมดสัญญา เป็นต้น นโยบายเกี่ยวกับเรื่องเสียง ความสะอาด การเชิญบุคคลภายนอกมาที่ห้อง ที่จอดรถ มีอะไรบ้าง เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการทำความเข้าใจเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับเจ้าของห้องหรือผู้ให้เช่านั้นเอง
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจสมัครเรียนคอรส์ภาษาอังกฤษ หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษใน UK, USA, Australia, Canada, Ireland และ New Zealand สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ SI-English ได้แล้ววันนี้ พร้อมดำเนินการฟรีทุกขั้นตอน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงลงทะเบียนชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ติดต่อ พร้อมแจ้งความประสงค์ในการสมัครเรียน
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ข้อควรทราบ ก่อนยื่นสมัครวีซ่า USA
ขั้นตอนการขอวีซ่าเรียนต่ออเมริกา (VISA F-1)
ค่าครองชีพสำหรับการไปศึกษาต่อหรือใช้ชีวิตที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา (USA)