อีกหนึ่งทักษะสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษ นั่นก็คือทักษะด้านการอ่าน เพื่อให้เรารู้จักการตีตวามและทำความเข้าใจโครงสร้างของภาษา การฝึกฝนทักษะด้านนี้ ก็ต้องเริ่มต้นจากการปลูกฝังการรักการอ่านก่อนเลยครับ ซึ่ง วรรณกรรมสำหรับเด็กหรือ Children's Books นั้นก็ถูกเขียนขึ้นด้วยวัตถุประสงค์นี้เอง
เหล่านี้คือ หนังสือเด็กที่ได้รับการยกย่องว่า “คลาสสิค” 5 เล่ม ที่สามารถช่วยฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกษให้ดีขึ้นได้จริง แถมยังหาซื้อได้ง่ายตามร้านหนังสือต่างประเทศทั่วไปครับ
Goodnight Moon โดย Margaret Wise Brown
ระดับภาษา: ง่าย
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 1 - 4 ขวบ
หนังสือนิทานประกอบภาพ เรื่องราวของเจ้ากระต่ายที่บอก “Good Night” กับข้าวของทุกชิ้นในห้องนอน ผู้เขียนใช้ประโยคสั้นๆ เขียนด้วยภาษาที่เรียบง่าย น่าจะเป็นหนังสือที่อ่านง่ายที่สุดแล้ว เนื้อหาเป็นการใช้โครงสร้างประโยคแบบเดียวกันซ้ำๆ แต่มีคำศัพท์ที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นกลวิธีที่ดีสำหรับการฝึกสมองเพื่อทำความเข้าใจกับความหมายของคำต่างๆ
Goodnight Moon ได้รับการยกย่องให้เป็นหนังสือนิทานประกอบภาพคลาสสิคของโลก โดยตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1947 ปัจจุบันจำหน่ายไปแล้วกว่า 11 ล้านเล่มทั่วโลก
The Very Hungry Caterpillar โดย Eric Carle
ระดับภาษา: ง่าย
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 - 6 ขวบ
เรื่องเกี่ยวกับเจ้าหนอนน้อยที่กินอาหารขยะมากเกินไป และตัดสินใจที่จะเปลี่ยนมากินอาหารเพื่อสุขภาพก่อนที่จะกลายเป็นผีเสื้อ ถือเป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเรียนรู้และทำความเข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็ก เช่น ตัวเลข วันในสัปดาห์ และประเภทของอาหาร หนังสือเล่มนี้ยังใช้การทำซ้ำบ่อยๆ ให้เด็กๆ จำคำศัพท์และโครงสร้างประโยคได้
The Very Hungry Caterpillar เป็นหนังสือเด็กที่ได้รับความนิยมมาแล้วทั่วโลก ถูกนำไปตีพิมพ์เป็นภาษาต่างๆ ถึง 50 ภาษา และขายได้มาก 29 ล้านเล่ม ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย
The Giving Tree โดย Shel Silverstein
ระดับภาษา: ปานกลาง
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป
Shel Silverstein เป็นนักประพันธ์ชาวอเมริกันและนักเขียนหนังสือเด็กที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ และ The Giving Tree เล่มนี้ก็เป็นหนังสือเด็กที่โด่งดังที่สุดเล่มหนึ่งของเขา ด้วยเนื้อหาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งกินใจ เล่าเรื่องราวของเด็กชายที่พึ่งพาอาศัยต้นไม้ ตลอดทุกช่วงวัยในชีวิต
Silverstein ใช้ภาษาเขียนที่ง่ายต่อการจดจำโครงสร้าง มีความลื่นไหล ทั้งสารที่ต้องการจะสื่อก็มีความชัดเจน ทำให้ The Giving Tree เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเรียน หรือต้องการฝึกอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ ที่มีพล็อตซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งจะช่วยฝึกการทำความเข้าใจความหมายของคำศัพท์ต่างๆ
Where the Wild Things Are โดย Maurice Sendak
ระดับภาษา: ปานกลางถึงยากเล็กน้อย
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป
Where the Wild Things Are เป็นหนังสือที่โด่งดังจนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์โดย ผกก. Spike Jonze เมื่อปี 2009 หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยจินตนาการอันน่าทึ่ง เรื่องราวของกับเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อแม็กซ์ ซึ่งกำลังเดือดร้อนและต้องไปหลบที่ห้องของตัวเอง ที่ซึ่งป่าแห่งมนตรากำลังถือกำเนิดขึ้น และแมกซ์ได้พบกับตัวประหลาดขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Wild Things
แม้ว่ารูปแบบของเนื้อหาจะค่อนข้างง่าย เดาเนื้อเรื่องได้ แต่คำศัพท์ที่ใช้บางคำอาจจะไม่คุ้นเคยสำหรับเด็กหรือผู้เริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ระดับสูง รวมถึงพัฒนาทักษะของผู้อ่านให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้น
The Cat in the Hat โดย Dr. Seuss
ระดับภาษา: ค่อนข้างยาก
เหมาะสำหรับเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป
The Cat in the Hat หนังสือเด็กที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Dr. Seuss (ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 2003X เป็นเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์เกี่ยวกับเจ้าแมวแสนซน ซึ่งจะปรากฏตัวให้เห็นก็ต่อเมื่อเด็กน้อยสองคนอยู่บ้านตามลำพัง แล้วแกล้งทำความเสียหาย รกรุงรัง ให้กับบ้านของเด็กๆ
The Cat in the Hat เป็นหนังสือเด็กที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษ เนื่องจากคำศัพท์ที่ใช้ค่อนข้างหลากหลาย รวมถึงเนื้อหาที่สามารถนำไปตีความต่อได้อีกด้วย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีน้องๆ ในวัยเรียน และอยากเพิ่มทักษะด้านภาษาอังกฤษให้กับบุตรหลาน หรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในต่างประเทศ ทั้ง USA, UK, Australia, New Zealand, Canada และ Ireland สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษา จาก ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนต่อต่างประเทศของ SI-English ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
8 คุณประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษที่คุณอาจไม่เคยรู้
มาฝึกภาษาอังกฤษกับ 3 วรรณกรรมสุดเจ๋งที่คุณไม่ควรพลาด!
Grammar: 5 Tense ภาษาอังกฤษที่คุณจำเป็นต้องรู้
