น้องๆ ที่กำลังชั่งใจ กลัวว่าไปเรียนภาษาที่แคนาดา (อ่าน 5 โรงเรียนสอนภาษาใน 5 เมืองสุดคูลของแคนาดา เพิ่มเติม) เจออากาศหนาวๆ แล้วจะไม่มีอะไรให้ทำ เลิกกังวลไปได้เลย ประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีธรรมชาติสวยงามอย่างแคนาดา ไม่ได้น่าเบื่ออย่างน้องคิดแน่ๆ และนี่คือ 10 สิ่งที่ต้องลอง หากน้องๆ อยากจะเข้าถึงความเป็น “แคนาเดียน” จริงๆ
1. ไปชมกีฬาฮ็อกกี้
ฮ็อกกี้ หรือฮ็อกกี้น้ำแข็ง คือกีฬาที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในประเทศ คลั่งไคล้กันขนาดไหน ก็ดูได้จากจำนวนลีกระดับประเทศ หรือ ที่ National Hockey League (NHL) ที่มีมากถึง 7 ลีก มีทีมฮอกกี้กระจายตัวอยู่ในทุกชุมชนของทุกเมือง ไม่ว่าจะเป็น Vancouver, Calgary, Edmonton, Winnipeg, Toronto, Ottawa หรือ Montreal การเข้าชมการแข่งขันสักครั้งในหนึ่งฤดูกาล ถือเป็นสิ่งที่ห้ามพลาด เพราะบรรยากาศของการแข่งขันจะทำให้น้องๆ ตื่นเต้นและฮึกเหิมจนลืมไม่ลงเลยล่ะ
2. เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด
เป็นกิจกรรมที่อาจจะมีค่าใช้จ่ายแพงไปสักหน่อยสำหรับนักเรียน แต่มาถึงที่แล้ว ไม่ลองได้ไง แถมแหล่งสกีในแคนาดาก็มักอยู่ใกล้ๆ เมืองใหญ่ นั่งรถออกไปไม่กี่ชั่วโมงก็มักจะได้พบสกีรีสอร์ทดีๆ เพียบ หากได้ลองสกีจนคล่องแล้ว เชื่อแน่ว่า น้องๆ จะต้องติดใจ จนอยากไปสกีซ้ำแล้วซ้ำอีก หลายคนที่เคยเกลียดหน้าหนาวก็เปลี่ยนเป็นรักได้ทันที เพราะกีฬาสกีมันสนุกมาก (ก. ไก่ล้านตัว)
3. ท่องเที่ยวทางน้ำ
ไม่ว่าน้องๆ จะเลือกเรียนที่ไหน หรือเดินทางไปยังส่วนใดของแคนาดา ก็จะสามารถพบแหล่งน้ำ อย่าง แม่น้ำ ลำธาร และทะเลสาบได้เสมอ แคนาดาคือประเทศที่มีแนวชายฝั่งที่ยาวที่สุดในโลก รวมถึงทะเลสาบส่วนใหญ่ (มากกว่าครึ่งหนึ่งของทะเลสาบบนโลก) อยู่ในพรมแดนของประเทศแคนาดา!
ลองกิจกรรรมที่ได้รับความนิยมอย่าง การล่องแก่ง พายเรือ หรือการกระโดดน้ำ ตามแหล่งน้ำธรรมชาติที่สวยงามและเพลิดเพลินราวกับสวนน้ำขนาดใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วไปในหกไทม์โซนของประเทศ กิจกรรมและสถานที่ยอดฮิต ก็อย่างเช่น การโต้คลื่นลูกยักษ์ที่สูงที่สุดในโลกที่อ่าว Fundy ดำน้ำเล่นที่ the Great Lakes ล่องแก่งที่ the Rockies เล่นเซิร์ฟที่เกาะแวนคูเวอร์ เป็นต้น
4. ร่วมงานเทศกาล
น้องๆ ที่เป็นขาเที่ยวงานเฟสติวัลต่างๆ ในไทยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรี งานโชว์ หรืองานเทศกาลท้องถิ่น ฯลฯ คงปลื้มปริ่มเลยทีเดียว เพราะในแคนดา มีงานเฟสติวัลให้เที่ยวตลอดทั้งปีทั่วประเทศ ไม่แพ้บ้านเราเลยครับ อย่างในเดือนกรกฏาคมของทุกปี ที่ Montreal ก็จะมีงาน Complètement Cirque เป็นเทศกาลที่ให้อารมณ์แบบโชว์กายกรรมและละครสัตว์ นอกจากนี้ก็มีงานเทศกาลดนตรีแจ๊สและแสดงตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ที่ Toronto ก็จะมีงาน Caribana หรือที่ Calgary ก็จะมีงาน Stampede เทศกาลแนวคาวบอย คันทรี่ สุดมันส์ เป็นต้น
หรือจะเป็นเมือง Edmonton ที่มีฉายาว่าเป็น ‘Canada’s Festival City’ :7jมีเทศกาลให้เที่ยวตลอดปี ขยับไปทางทางด้านตะวันตกของชายฝั่งแปซิฟิคที่ Vancouver ก็มีงาน Vancouver’s Festival of Light เทศกาลแสงสีสุดตระการตา รวมถึงงานเทศกาลดนตรีและอาหารน่ารักๆ ใน Vancouver Island ด้วย เรียกว่า ไม่ว่าน้องจะอยู่เมืองไหน ในช่วงใดของปี ก็เที่ยวงานเทศกาลได้ตลอด ส่วนใครที่ยังไม่เคย เน้นย้ำเลยว่า ต้องลองไปสัมผัสสักครั้ง (อ่าน ไปเที่ยวที่ไหนดี เมื่อต้องไปเรียนภาษาที่ ‘แคนาดา’ เพิ่มเติม)
5. ชิมเมนูแคนาเดียน
ไปเยือนประเทศแคนาดาทั้งที ต้องไม่พลาดลองลิ้มชมรสอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อของแคนาดา อย่างเช่น Poutine, น้ำเชื่อมเมเปิ้ล, Peameal Bacon, Beaver Tails, บัตเตอร์ ทาร์ต, Nanaimo bars, แซลมอนป่า, หอยนางรม, Alberta beef, เบเกิลสไตล์มอนทรีออล, Saskatoon berries, เนื้อรมควัน, Oka Cheese, B.C. Spot Prawns, กุ้งล็อบสเตอร์ แอตแลนติก เป็นต้น นอกจากมีอะไรให้ต้องทำมากมายแล้ว เรื่องอาหารการกินที่แคนาดา ก็มีอะไรมากมายให้น้องๆ ลองชิมเช่นกัน
6. ลองเครื่องดื่มสัญชาติแคนาเดียน
ไม่ว่าจะเป็น Ceasars, Craft Beers, Maple Whiskey, Ice Wine, Okanagan Valley Wine, Niagara on the Lake Wine และอีกมากมาย ลองชิมแค่พอให้รู้รสว่ามันเป็นยังไง ที่สำคัญคือ ดื่มอย่างมีสติ Drink responsibly แต่ต้อง drink Canadian เท่านั้น
7. เล่นสเก็ตกลางแม่น้ำ
เบบี๋ชาวแคนาดาทุกคน หลังหัดเดิน หัดพูด สิ่งถัดมาที่ต้องทำเป็นเลยก็คือ หัดสเก็ต! หากน้องๆ ไม่ได้เลือกโรงเรียนสอนภาษาในเมืองแถบชายฝั่งทะเล (ซึ่งบรรยากาศดีไปอีกแบบ) การันตีเลยว่าน้องๆ จะสามารถหาทะเลสาบที่แข็งตัวเป็นน้ำแข็งในช่วงหน้าหนาวใกล้ๆ สำหรับเล่นสเก็ตได้อย่างแน่นอน อย่างน้อยก็สักเดือนสองเดือน ในเมื่อมันหนาวแล้วเราจะทำอะไรได้ นอกจากใส่รองเท้าสเก็ตแล้วออกไปสนุกกับเพื่อนๆ ชาวแคนาเดียน ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำระหว่างที่อยู่ที่นี่ จะได้มีเรื่องเอาไว้คุยโม้กับลูกหลานตอนแก่ตัวยังไงล่ะ
8. ไปกางเต็นท์ ตั้งแคมป์
Camping หรือการตั้งแคมป์ เรียกว่าเป็นงานอดิเรกอันดับหนึ่งของชาวแคนาดาเลยทีเดียว ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ครอบครัวจะพากันเก็บของลงรถ มองหาทะเลสาบสักแห่ง แล้วกางเต็นท์ ก่อกองไฟ ปิ้งมาร์ชเมลโลว์ แจกจ่ายเครื่องดื่ม แล้วใช้เวลาร่วมกัน ดูดาวยามค่ำคืน แข่งว่าใครจะรู้จักดาวต่างๆ มากที่สุด แค่คิดก็อยากไปแล้วใช่ไหมล่ะ นี่แหละ อีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้
9. เดินสำรวจและปีนเขา
ในเมื่อไปตั้งแคมป์กันแล้ว แล้วทำไมจะไม่หากิจกรรมเพิ่มกันล่ะ กิจกรรมเดินสำรวจและปีนเขาหรือ hiking นี่แหละ ที่คนไป camping นิยมมากที่สุด!
ในแต่ละเมือง แต่ละไทม์โซนของแคนาดา ล้วนแล้วแต่มีสถานที่เด็ดๆ ที่เหมาะสำหรับการไป hiking ทั้งสิ้น ทั้งแต่แถบเทือกเขา Rockies และ Alberta ไปจนเขต Prairies และ the Great Lakes จรดชายฝั่งแอตแลนติก ล้วนมีที่ให้เดิน ให้ปีนป่าย และพบปะผู้คนพร้อมแชร์ประสบการณ์ร่วมกันทั้งสิ้น คำแนะนำสำหรับน้องๆ ที่สนใจกิจกรรมนี้ ก็คือ น้องๆ ควรเช็คให้แน่ใจว่าในช่วงฤดูที่เราจะไปนั้นอากาศเป็นอย่างไร ปลอดภัยสำหรับการ hiking หรือไม่ รวมถึงแจ้งข่าวเกี่ยวกับทริป hiking ของเราให้คนรู้จัก ผู้ปกครอง และโรงเรียน ทราบ ว่าจะเดินทางไปไหน อย่างไร และจะสามารถติดต่อได้อย่างไร เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว (อ่าน 7 สิ่งที่ควรต้องรู้ ก่อนไปใช้ชีวิตอยู่ที่แคนาดา เพิ่มเติม)
10. เผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง
มาเรียนเมืองนอกทั้งที ถือโอกาสลองทำในสิ่งที่ท้าทาย เพื่อละลายพฤติกรรมและเผชิญหน้ากับความกลัวของตัวเอง เช่น การกระโดดร่มหรือ skydive ที่ Saskatchewan, กระโดดบันจี้จัมพ์ใน Quebec, ดำน้ำใต้ธารน้ำแข็งหรือ ice diving ที่ Banff, ไปสกีในแถบทางเหนือของแคนาดา ฯลฯ หรือถ้าไม่ถนัดกีฬาเอ็กซตรีม ก็ลองท้าทายตัวเองในด้านอื่น เช่น เรียนภาษาท้องถิ่น ลองอาหารแปลกๆ หรือเล่นกีฬาใหม่ๆ ที่เราไม่เคยเล่น หรือหางานพิเศษทำ (อ่านบทความ นักเรียนนานาชาติเรียนไปทำงานไปในแคนาดา เพิ่มเติม) เป็นต้น
แคนาดา เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ และมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกและยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ควรต้องลองสักครั้ง หากได้มีโอกาสไปเยือนครับ
Apply to study English in Canada
น้องๆ ที่มีความสนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ประเทศแคนาดา สามารถติดต่อขอทราบข้อมูลและรับคำปรึกษาได้ฟรี จากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาต่อต่างประเทศของ SI-English ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ไปเรียนภาษาอังกฤษที่แคนาดา ต้องใช้วีซ่าแบบไหน?
ค่าครองชีพในการไปศึกษาต่อและใช้ชีวิตที่ประเทศ Canada