ศึกษาต่อต่างประเทศ ไม่ยากอย่างที่คิด ค้นหาโรงเรียนสอนภาษากว่า 600 แห่ง ใน 6 ประเทศ

Oxford และ Cambridge ต่างกันอย่างไร เลือกเรียนต่อเมืองไหนดี

4 กุมภาพันธ์ 2563 ออกซ์ฟอร์ด เคมบริดจ์ General English โรงเรียนสอนภาษา ทิปส์ สหราชอาณาจักร

การได้ไปเรียนภาษาอังกฤษในสหราชอาณาจักรให้อะไรมากกว่าที่คิดแน่นอน พบกิจกรรมเสริมหลักสูตรมากมาย ทั้งประสบการณ์แปลกใหม่ เพื่อนใหม่ ทริปท่องเที่ยวใหม่ พร้อมกับการฝึกฝนทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน กับเจ้าของภาษา (ลองดู แนะนำ 5 เมืองจากสหราชอาณาจักร ที่น่าไปเรียนภาษาต่อ) แต่จะไปเมืองไหนดีล่ะ ระหว่างสองเมืองสุดฮิต ยอดนิยมอย่าง Oxford และ Cambridge ต่างกันอย่างไร เลือกเรียนเมืองไหนดี ? มาอ่านกันเลย

ความเหมือนของ Oxford และ Cambridge

มีความเป็นเลิศทางระบบวิชาการ

ทั้ง Oxford และ Cambridge นั้นมีความเป็นเลิศทางวิชาการ และการเรียนการสอนที่โดดเด่น ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าเราจะเรียนวิชาอะไรก็ย่อมได้รับการเรียนการสอนที่ดีและเต็มที่ นอกจากจะได้เรียนในรูปแบบทั่วไป อย่าง การเข้าเรียน การบรรยาย การทำแล็ป แต่ทั้งอ็อกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ยังมีการเรียนการสอนแบบเฉพาะกลุ่มหรือเป็นรายบุคคล (personalised teaching) อีกด้วย ซึ่งจะได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา  ต่างกันแค่ชื่อเรียก โดยที่อ็อกซ์ฟอร์ดจะเรียกวิธีการเรียนการสอนแบบนี้ว่า ‘tutorials’ ในขณะที่เคมบริดจ์จะเรียกกันติดปากว่า ‘supervisions’ แต่ทั้งสองเมือง ผู้เรียนนั้นจะต้องเตรียมการเรียงความหรืองานชิ้นอื่นๆ ได้รับมอบหมายมา แล้วจึงได้เข้าพบอาจารย์ผู้สอนเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับงานชิ้นนั้นๆ แบบตัวต่อตัว หรือกับผู้เรียนคนอื่นอีกหนึ่งหรือสองคน โดยจำกัดเฉพาะนักศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ มีคุณสมบัติที่เหมาะสม หรือมีประสบการณ์เท่านั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับนักศึกษาของทั้งสองสถาบัน เพราะมันคือโอกาสสำคัญในการพัฒนาความเข้าใจในหัวข้อ และการได้พบปะกับผู้เชี่ยวชาญที่ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดี ซึ่งหมายถึงอนาคตในแวดวงวิชาการ

มีความเป็นทางประวัติศาสตร์ยาวนานและน่าสนใจ

อย่างที่ทราบกันดีว่านอกจากสองเมืองดังนี้ จะมีทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนสอนภาษาที่มากมายแล้ว ยังมีความเป็นมาของเมืองที่ยาวนานเช่นกัน อาคารต่างๆ ของเมืองให้ความรู้สึกว่าเหมือนอยู่ใน Hogwarts เลยล่ะค่ะ! ยกตัวอย่างสองมหาวิทยาลัยที่เป็นที่รู้จักอย่าง University of Cambridge และ University of Oxford โดย University of Cambridge นั้นก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ.1209 ส่วน University of Oxford เปิดสอนมาตั้งแต่ ค.ศ. 1096 ซึ่งก็ถือว่าทั้งสองแห่งก่อตั้งมายาวนานมาก ใครมาเรียนที่นี่ก็จะได้เรียนในบรรยากาศที่มีประวัติศาสตร์เก่าๆ ไปด้วยค่ะ

ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัย

ทั้ง Cambridge และ Oxford เป็นเมืองที่ได้รับการยอมรับว่าปลอดภัยที่สุดใน Britain เนื่องด้วยไม่ค่อยมีอาชญากรรมที่รุนแรง และในสังคมของนักศึกษาที่นี่จะปลอดภัยเป็นพิเศษ

บรรยากาศและวัฒนธรรม

ทั้งอ็อกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์จัดเป็นเมืองที่เล็กด้วยจำนวนประชากร อย่าง Oxford มีประชากรประมาณ 150,000 คน ส่วน Cambridge มี 120,000 คน แต่ถึงจะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีกิจกรรมสนุกๆ ไม่ต่างจากเมืองใหญ๋เลยค่ะ อย่างในวันหยุดเราอาจจะไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ Fitzwilliam ที่ Cambridge หรือ Ashmolean ที่ Oxford ก็ได้ค่ะ

ระบบวิทยาลัย (Colleges)

ทั้งอ็อกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ เป็นมหาวิทยาลัยที่ประกอบขึ้นจากการรวมตัวของวิทยาลัยต่างๆ ที่มีความเป็นเอกเทศ วิทยาลัยแต่ละแห่งจะเป็นเหมือนบ้านของนักศึกษาและเป็นศูนย์กลางของการเรียนการสอนของแต่ละสาขาวิชา ซึ่งนักศึกษาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในวิทยาลัยของตัวเอง (เช่นเดียวกับคณะต่างๆ ในบ้านเรา) แต่ละวิทยาลัยก็จะมีนักศึกษาหลากหลายระดับ แต่โดยทั่วไปก็จะมีทั้งที่เป็น undergraduate และ graduate students

ข้อดีของระบบวิทยาลัยคือ การเป็นชุมชนทางด้านวิชาการที่มีขนาดเล็ก จัดการดูแลกันได้อย่างทั่วถึง นักศึกษาจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกของวิทยาลัยได้ง่าย เช่น ห้องสมุดและบริการด้านไอที แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถใช้ทรัพยากรส่วนกลางของมหาวิทยาลัย และให้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงในระดับโลกอยู่

แต่ละวิทยาลัยของออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ มีเรียนการสอนที่ยอดเยี่ยมและมีมาตรฐานการศึกษาที่สูงมาก ข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระบบนี้ช่วยให้ผู้สมัครสามารถเลือกวิทยาลัยที่สนใจได้มากกว่า 1 วิทยาลัยในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งผู้สมัครอาจถูกเรียกสัมภาษณ์หรือได้รับ offer จากวิทยาลัยมากกว่า 1 แห่งก็ได้

oxford

ความต่างของ Oxford และ Cambridge

Oxford มีอัตราการจ้างงานมากกว่า

ถึงจะเป็นเมืองเล็กทั้งสอง แต่หากเทียบกันจริงๆ แล้ว Oxford ก็ยังมีขนาดใหญ่กว่า Cambridge อยู่ และเมืองอ็อกซ์ฟอร์ดยังมีอุตสาหกรรมมากกว่าอีกด้วย ดังนั้น รอบมหาวิทยาลัยและตัวมหาวิทยาลัยใน Oxford จึงมีอัตราการจ้างงานสูงกว่า Cambridge รวมไปถึงความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตก็ง่ายกว่า

Cambridge ไป London ไวกว่า Oxford

จาก 2 เมือง นี้สามารถไปใจกลางเมืองลอนดอนได้อย่างสะดวก โดยรถไฟจาก Cambridge ไป London ใช้เวลาเพียง 47 นาที และจาก Oxford ไป London ใช้เวลา 51 นาที แต่ถ้าจะไปเที่ยวกลางคืนใน London การนั่งรถไฟกลับ Oxford จะสะดวกกว่า Cambridge โดยรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่กลับ Oxford มีตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนถึง ตี 1 ส่วน Cambridge ไม่มีรถไฟให้บริการในช่วงหลังเที่ยงคืน น้องๆ อาจจะต้องรอรถไฟเที่ยวแรกช่วงเช้าอย่างตอนตี 5 เลยค่ะ และในวันอาทิตย์จะมีรถบัสประจำทางบริการ 24 ชั่วโมง จาก Oxford ไป London ด้วยเช่นกัน

บางสาขาวิชาเปิดสอนเฉพาะมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งใน Cambridge และ Oxford

มีบางวิชาที่เปิดสอนเฉพาะมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งใน Cambridge และ Oxford เช่น วิชา Anglo-Saxon, Norse and Celtic, Architecture, Land Economy, และ Veterinary Medicine ส่วนวิชาที่เรียนได้แค่ Oxford เช่น วิชา Philosophy, Politics and Economics degree (PPE), Fine Art, Mathematics and Philosophy 

Oxford เปิดทำการเรียนการสอนรวมทั้งหญิงชายทุกคณะ

ในยุคก่อนนั้น ทั้งสองเมืองจะมีบางสาขาวิชาที่เปิดทำการเรียนการสอนเฉพาะผู้หญิง แต่ตอนนี้มหาวิทยาลัยใน Oxford นั้นก็เปิดให้ผู้ชายเข้ามาเรียนได้ ในขณะที่ Cambridge นั้นยังมีบางสาขาวิชาที่เปิดทำการเรียนการสอนเฉพาะผู้หญิง เช่น  Murray Edwards, Newnham  และ Lucy Cavendish colleges เป็น college หญิงล้วน

มีความโดดเด่นในสาขาวิชาที่ต่างกัน

Oxford นั้นเป็นที่รู้จักในด้านวิชามนุษยศาสตร์ และ Cambridge จะมีความโดดเด่นในสายวิชาวิทยาศาสตร์ สามารถสังเกตได้จากงานเลี้ยงรุ่น เพราะศิษย์เก่าของ Oxford ส่วนมากจะเป็นผู้มีชื่อเสียงในด้านการเมือง เศรษฐศาสตร์และปรัชญา ขณะที่  Cambridge จะเป็นด้านสาขาวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีอังกฤษส่วนใหญ่จะจบ Oxford มากกว่าที่จบ Cambridge ในส่วนของ Cambridge มีนักวิทยาศาสตร์หลายท่านที่ได้รางวัลโนเบลมากกว่า Oxford

สำหรับน้องๆ คนไหนที่มีความสนใจอยากจะศึกษาต่อในด้านภาษาที่สหราชอาณาจักรทั้งเมือง Oxford - Cambridge หรือเมืองอื่น ๆ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ SI-English ได้แล้ววันนี้ พร้อมดำเนินการฟรีทุกขั้นตอน ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพียงลงทะเบียนชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ติดต่อ พร้อมแจ้งความประสงค์ในการสมัครเรียน

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

อาชีพมาแรง ยุคดิจิทัล ปี 2020

6 เทคนิค เตรียมสอบ IELTS เตรียมตัวดี คะแนนสูง ชัวร์!

รวมศัพท์แสลงยอดฮิตที่วัยรุ่นต้องรู้!

© SI-English | All rights reserved | Privacy Policy